วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

ให้นักเรียนทำกิจกรรม

ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น 8 กลุ่มและทำกิจกรรมต่อไปนี้ โดยส่งกลุ่มละ 1 ชุด (ส่งหลังจากหมดคาบวันศุกร์ที่ 11 ก.ย. 2552)
ให้นักเรียนทำกิจกรรมต่อไปนี้
1. หญิงคนหนึ่งตาปกติมีพ่อเป็นโรคตาบอดสี แต่งงานกับชายตาปกติ แต่มีพ่อเป็นโรคตาบอดสี จงหาร้อยละของลูกที่เป็นโรคตาบอดสี2. โรคกล้ามเนื้อแขนขาลีบเป็นลักษณะด้อยบนโครโมโซม X ถ้าชายเป็นโรคกล้ามเนื้อแขนขาลีบแต่งงานกับหญิงที่เป็นพาหะ ลูกจะมีจีโนไทป์และฟีโนไทป์เป็นอย่างไร อัตราส่วนเท่าใด3. โรคฮีโมฟีเลียควบคุมด้วยยีนด้อยบนโครโมด
โซม X หญิงคนหนึ่งปกติแต่งงานกับชายที่เป็นโรคฮีโมฟิเลีย มีลูกสาวคนหนึ่งเป็นโรคฮีโมฟิเลีย จงหา
3.1 จีโนไทป์ของหญิงชายคู่นี้3.2 จีโนไทป์ของลูกชายและลูกสาวทุกคน3.3 ร้อยละของลูกสาวที่เป็นโรคฮีโมฟิเลีย
4. จากพันธุประวัติ (peddigree) ของครอบครัวหนึ่งที่มีประวัติเกี่ยวกับโรคฮีโมฟิเลีย ดังแผนภาพ

4.1 เหตุใดครอบครัวที่ 1 ลูกชายจึงไม่เป็นโรคฮีโมฟิเลีย4.2 เหตุใดครอบครัวที่ 2 จึงมีลูกชายคนหนึ่งเป็นโรคฮีโมฟิเลีย4.3 ลูกสาวของครอบครัวใดที่เป็นพาหะทุกคน เพราะเหตุใด
5. หมู่เลือดระบบ ABO ในคนควบคุมด้วยยีนบนออโตโซม โรคตาบอดสีควบคุมด้วยยีนด้อยบนโครโมโซมเพศ พ่อและแม่มีหมู่เลือด A และตาปกติทั้งคู่ มีลูกชายคนหนึ่งมีหมู่เลือด O และตาบอดสี จงหาอัตราส่วนของฟีโนไทป์ ดังต่อไปนี้
5.1 ถ้าลูกสาวของพ่อแม่คู่นี้มีหมู่เลือด O และตาปกติ5.2 ถ้าลูกชายของพ่อแม่คู่นี้มีหมู่เลือด A และตาบอดสี
6. จงอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้
6.1 polygenes6.2 polygenic trait6.3 continuous variation trait6.4 discontinuous variation trait6.5 quantitative trait6.6 sex-linked gene6.7 peddigree6.8 thalassemia6.9 hemophilia
7. การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสสัมพันธ์กับกฎแห่งการแยก และกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระได้อย่างไร ?
8. หนูตัวหนึ่งสร้างสเปริ์มชนิด aBCDE ผสมกับเซลล์ไข่ชนิด abcDe จงหาจีโนไทป์ของลูกที่เกิดจากการปฏิสนธิ และลูกมีโอกาสสร้างเซลล์สืบพันธุ์ได้กี่ชนิด อะไรบ้าง ?
9. หญิงคนหนึ่งเป็นโรคตาบอดสี เมื่อแต่งงานกับชายตาปกติ
9.1 ลูกชายจะมีโอกาสเป็นโรคตาบอดสีหรือไม่ 9.2 ลูกสาวจะเป็นโรคตาบอดสีหรือเป็นพาหะ
10. ในการศึกษาการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของมนุษย์ทำได้ยากกว่าในพืช จงให้เหตุผลว่าเป็นเพราะเหตุใด ?
11. ชายคนหนึ่งมีฟันเป็นสีน้ำตาล แต่งงานกับหญิงที่มีฟันสีขาว มีลูกสาว 4 คน ทุกคนมีฟันสีน้ำตาล และมีลูกชาย 3 คน ทุกคนมีฟันสีขาว ต่อมาลูกชายทุกคนไปแต่งงานกับหญิงฟันสีขาว ลูกทุกคนมีฟันสีขาว ส่วนลูกสาวคนหนึ่ง (ก) ในจำนวน 4 คน แต่งงานกับชาย (ข) ที่มีฟันสีขาว มีลูกทั้งหมด 4 คน เป็นลุกสาว 2 คน คนหนึ่งมีฟันสีน้ำตาล อีกคนหนึ่งมีฟันสีขาว และลูกชาย 2 คน คนหนึ่งมีฟันสีน้ำตาล และอีกคนหนึ่งมีฟันสีขาว
11.1 จงเขียนสายพันธุประวัติของครอบครัวนี้ 11.2 การถ่ายทอดลักษณะสีฟันของคนในครอบครัว ถูกควบคุมด้วยยีนเด่น หรือ ยีนด้อย และยีนมีตำแหน่งอยู่ที่โครโมโซมชนิดดใด ? 11.3 ถ้าลูกชายมีฟันสีน้ำตาลที่เกิดจาก ก และ ข ไปแต่งงานกับหญิงฟันสีน้ำตาล ซึ่งพ่อมีฟันสีขาว โอกาสที่จะมีลูกชายเป็นฟันสีขาวคิดเป็นอัตราส่วนเท่าใด ?
12. จากการสำรวจ ลักษณะหนังตา และความสูงของนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสมเด็จพิทยาคม แล้วนำข้อมูลมาเขียนเป็นกราฟ จะได้กราฟดังภาพ ก และ ข จากข้อมูลนี้บอกอะไรแก่เราบ้าง ?

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ศัพท์ทางพันธุศาสตร์ที่ควรรู้จัก
1. ยีน(gene) คือ ลักษณะทางพันธุกรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครโมโซม โครโมโซมของคนเรามี23คู่และยีนมีอยู่ประมาณ 50,000 ยีน ยีนเหล่านี้กระจายอยู่ในโครโมโซมแต่ละคู่จะควบคุมการถ่ายทอดลักษณะไปสู่ลูกได้ประมาณ 50,000 ลักษณะ
2. แอลลีล(allele) คือ ยีนที่เป็นคู่เดียวกันเรียกว่าเป็น แอลลีลิก(allelic)ต่อกันหมายความว่าแอลลีลเหล่านั้นจะมีตำแหน่ง เดียวกันบนโครโมโซมที่เป็นคู่กัน(homologous chromosome)
3. เซลล์สืบพันธุ์(gamete) หมายถึง เซลล์เพศ(sex cell)ทั้งไข่(egg)และอสุจิหรือ(sperm)
4. จีโนไทป์(genotype) หมายถึง ยีนที่ควบคุมลักษณะของสิ่งมีชีวิตเช่นTT,tt,Tt
5. ฟีโนไทป์(phenotype) หมายถึง ลักษณะที่ปรากฏออกมาให้เห็นซึ่งเป็นผลจากการแสดงออกของจีโนไทป์นั่นเอง เช่น TT,Tt มีจีโนไทป์ต่างกันแต่มีฟีโนไทป์เหมือนกัน คือ เป็นต้นสูงทั้งคู่
6. ฮอมอไซโกต(homozygote) หมายถึง คู่ของแอลลีลซึ่งเหมือนกัน เช่น TT จัดเป็นฮอมอไซกัสโดมิแนนต์(homozygous dominant ) เนื่องจากลักษณะทั้งคู่เป็นลักษณะเด่นหรือ tt จัดเป็นฮอมอไซกัสรีเซสซีฟ(homozygous recessive) เนื่องจาก ลักษณะทั้งคู่เป็นลักษณะด้อย ลักษณะที่เป็นฮอมอไซโกตเราเรียกว่า พันธุ์แท้
7. เฮเทอร์โรไซโกต(heterozygote) หมายถึง คู่ของแอลลีลที่ไม่เหมือนกันเช่น Tt ลักษณะของเฮเทอร์โรไซโกตเรียกว่าเป็นพันทาง
8. ลักษณะเด่น(dominant) คือ ลักษณะที่แสดงออกเมื่อเป็นฮอมอไซกัสโดมิแนนต์และเฮเทอร์โรไซโกต9. ลักษณะด้อย(recessive) คือ ลักษณะที่จะถูกข่มเมื่ออยูในรูปของเฮเทอร์โรไซโกตและจะแสดงออกเมื่อเป็นฮอมอไซกัสรีเซสซีฟ
10. ลักษณะเด่นสมบูรณ์(complete dominant) หมายถึง การข่มของลักษณะเด่นต่อลักษณะด้อยเป็นไปอย่างสมบูรณ์ทำให้ พีโนไทป์ของฮอมอไซกัส โดมิเนนท์และเฮเทอร์โรไซโกตเหมือนกันเช่น TT จะมีพีโนไทป์เหมือนกับ Tt ทุกประกอบ
11. ลักษณะเด่นไม่สมบูรณ์(incomplete dominant) เป็นการข่มกันอย่างไม่สมบูรณ์ทำให้เฮเทอร์โรไซโกตไม่เหมือนกับฮอมอ ไซกัสโดมิแนนท์ เช่น การผสมดอกไม้สีแดงกับดอกไม้สีขาวได้ดอกสีชมพูแสดงว่าแอลลีลที่ควบคุมลักษณะดอกสีแดงข่มแอลลีลที่ควบ คุมลักษณะดอกสีขาวได้ไม่สมบูรณ์
12. ลักษณะเด่นรวม(co-dominant) เป็นลักษณะที่แอลลีลแต่ละตัวมีลักษณะเด่นกันทั้งคู่ข่มกันไม่ลงทำให้ฟีโนไทป์ของเฮเทอร์ โรไซโกตแสดงออกมาทั้งสองลักษณะ เช่น หมู่เลือด AB ทั้งแอลลีลIAและแอลลีลIBจะแสดงออกในหมู่เลือดทั้งคู่
13.เทสต์ ครอส(test cross) เป็นการผสมระหว่างต้นที่มีฟีโนไทป์เด่นกับต้นที่มีฟีโนไทป์ด้อย เพื่อต้องการทราบว่าต้นลักษณะ เด่นเป็นลักษณะพันธุ์แท้หรือพันธุ์ทาง ถ้าหากต้นที่ผสมซึ่งเป็นลักษณะด้อยนั้นเป็นพ่อแม่จะเรียกการผสมแบบแบค ครอส(back cross)
14. คารีโอไทป์(karyotype) คือ การศึกษาโครโมโซมโดยการถ่ายภาพแล้วนำภาพถ่ายของโครโมโซมมาจัดเรียงเข้าคู่กันและแบ่ง เป็กลุ่มๆได้
15. การถ่ายทอดพันธุกรรมลักษณะเดียว(monohybrid cross)เป็นการผสมพันธุ์ซึ่งเราคำนึงถึงลักษณะเพียงลักษณะเดียวและ มียีนควบคุมอยู่เพียงคู่เดียว
16. การถ่ายทอดพันธุกรรมสองลักษณะ(dihybrid cross) เป็นการผสมที่ศึกษาสองลักษณะในเวลาเดียวกันมียีนควบคุมสองคู่

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การแสดงออกร่วมกันของ gene
ตามปกติในการปรากฎลักษณะต่างๆแต่ละลักษณะ จะถูกควบคุมโดยคู่ gene เพียงคู่เดียวและมีลักษณะต่างๆหลายลักษณะ ในสิ่งมีชีวิตที่ถูกควบคุมโดย gene มากกว่าหนึ่งคู่ โดยแต่ละคู่มีการถ่ายทอดเป็นอิสระแก่กัน แต่มีการทำงานร่วมกันในการปรากฏของลักษณะหนึ่งๆ ปฏิกิริยาระหว่าง gene แต่ละคู่มีผลต่อการแสดงออกร่วมกันของลักษณะนั้นๆซึ่งมีหลายแบบ ดังนั้นอัตราส่วนของฟีโนไทป์ จะแตกต่างไปจากที่ควรจะได้ ตามกฎการแยกจับคู่อย่างอิสระของหน่วยกรรมพันธุ์ ดังเช่นตัวอย่างต่อไปนี้แบบเสริมสร้างกัน (complementary gene)เป็น gene ที่ทำงานร่วมกันแบบเสริมสร้างซึ่งกันและกัน เช่น ลักษณะสีของดอกในถั่วชนิดหนึ่งถูกควบคุมด้วย gene 2 คู่ ถ้ามีคู่ gene สำหรับลักษณะเด่นของ gene ทั้งสองคู่ปรากฎอยู่ในจีโนไทป์ ลักษณะที่ปรากฎทางฟีโนไทป์ คือ ดอกสีม่วง แต่ถ้าขาดคู่ gene เด่นตัวใดตัวหนึ่งไป ลักษณะที่ปรากฎทางฟีโนไทป์จะเป็นดอกสีขาว


พอลิจีนและไพลโอทรอพิซึม ( polygene and pleiotropism )
จีนที่กล่าวมาแล้ว เป็นพวกที่แสดงลักษณะออกมาอย่างเด่นชัดเช่น ถั่วที่มีผิวเมล็ดเรียบหรือขรุขระ เนื้อเมล็ดสีเหลือง หรือเขียว และการเกิดหมู่เลือดชนิดต่างๆในคน ลักษณะนี้จัดเป็นพวกที่แสดงลักษณาการทางคุณภาพ (qualitative trait) หรือลักษณะการไม่ต่อเนื่อง (discontinuous trait) คือไม่ว่าจะถูกควบคุมด้วยจีนเพียงคู่เดียวหรือหลายคู่ก็ตาม ผลของการทำงานร่วมกันของจีนจะออกมาในรูปของฟีโนไทป์ใดๆโดยเฉพาะและชัดเจน ไม่มีลักษณะกึ่งกลางหรือต่อเนื่องกัน ทำให้สามารถจัดกลุ่มฟีโนไทป์ได้สะดวกและแน่นอน และสิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลไปดัดแปลงการแสดงออกของจีนนั้นๆน้อยหรืออาจไม่มีเลยก็ได้
ในทางตรงข้าม จะพบว่าลักษณะกรรมพันธุ์บางอย่างมีความแตกต่างกันเล็กน้อยอย่างต่อเนื่องจนไม่อาจจัดจำแนกออกเป็นกลุ่มฟีโนไทป์อย่างชัดเจน เหมือนอย่างในกรณีแรก ตัวอย่าง เช่น ลักษณะความสูง สติปัญญา สีผิวของคน ลักษณะดังกล่าวนี้มีความแปรผันอย่างมาก จึงจัดเป็นลักษณาการทางปริมาณ (quantitative trait)หรือลักษณาการ ต่อเนื่อง (continuous trait) เพราะสามารถวัดหาขนาดหรือปริมาณ หรือวิเคราะห์ในเชิงปริมาณได้ อย่างเช่น ความสูงของคนส่วนมากก็มีขนาดใกล้เคียงกันและลดหลั่นกันไปตามลำดับ จนกระทั่งพบว่าคนที่สูงมากหรือเตี้ยมากมีจำนวนไม่มากนัก ซึ่งทำให้ลักษณะความสูงของคนมีสภาพการกระจายแบบโค้งปกติ (normal distribution curve)ลักษณะกรรมพันธุ์เช่นนี้เกิดจากปัจจัยร่วมกันระหว่างพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเกี่ยวกับอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต จึงเป็นการยากที่จะกล่าวว่าปัจจัยใดๆมีความสำคัญหรือมีบทบาทต่อการแสดงออกทางฟีโนไทป์ได้มากกว่ากัน
สมมุติฐานที่ใช้อธิบายการถ่ายทอดลักษณะกรรมพันธุ์แบบต่อเนื่อง คือมีจีน หรือกลุ่ม จีนหลายคู่ที่เรียกว่า พอลิจีน (polygene) ทำหน้าที่ควบคุมลักษณะเดียวกัน คู่จีนเหล่านี้อาจมีตำแหน่ง ต่างกันภายในโครโมโซมคู่เดียวกัน หรืออยู่บนโครโมโซมต่างคู่กันก็ได้โดยจีนแต่ละคู่จะส่งผลต่อการแสดงออกของลักษณะนั้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่สิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลช่วยเสริมการแสดงออกทางฟีโนไทป์พอสมควร จึงทำให้ลักษณะที่แสดงออกทางฟีโนไทป์แตกต่างแปรผันอย่างมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางพันธุกรรมและสภาพแวดล้อม สีของเมล็ดของข้าวสาลี เป็นตัวอย่างการถ่ายทอดลักษณะกรรมพันธุ์แบบต่อเนื่องลักษณะนี้มีจีนที่ควบคุมเพียง 3 คู่สมมุติว่าจีน P ให้สีแดง และมีจีนอีก 2 คู่ คือ Q และ R ซึ่งอยู่ที่ตำแหน่งอื่น และต่างก็ให้สีแดงด้วย (ให้ + แทนสัญลักษณ์การเกิดสีแดง) คู่จีนของจีนเหล่านี้ คือ p, q และ r มีคุณสมบัติทำให้ไม่เกิดสี(ใช้สัญลักษณ์ - ) และกำหนดด้วยว่าจีนที่ควบคุมการมีสีแดง หรือไม่มีสี มีสมบัติแสดงออกเท่าๆกัน จะเห็นได้ว่า เมล็ดข้าวสาลีที่มีจีโนไทป์ ppqqrr แสดงลักษณะเมล็ดสีขาว (- - - - - -) ส่วนพวกจีโนไทป์ PPQQRR แสดงสีแดงเข้ม (++++++) สำหรับจีโนไทป์แบบอื่นๆ จะเป็นดังนี้คือ Ppqqrr แสดงลักษณะสีชมพูอ่อน (+- - - -) และ PPqqrr (++ - - - -) ,ppQQrr (- - ++ - -), ppqqRR (- - - - ++) ต่างก็มีสีชมพู หากจีโนไทป์มีจีนควบคุมให้มีสีแดงจำนวนมากขึ้น สีของเมล็ดก็จะเข้มขึ้นเป็นลำดับ และจะจำแนกความแตกต่างของจีโนไทป์ได้ถึง 7 แบบ ถ้ามีคู่ของจีนที่ควบคุมลักษณะเดียวกันเพิ่มมากขึ้นเท่าใด ก็จะได้จำนวนฟีโนไทป์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จนเมื่อดูจากฟีโนไทป์ไม่อาจทราบได้ว่าจำนวนจีนที่ควบคุมมีเท่าใด แต่อาจประมาณได้โดยใช้หลักเกณฑ์ทางสถิติโดยการหาค่าเฉลี่ย (mean) และค่าของความแปรผัน (Variance) ถ้าค่าของความแปรผันมาก แสดงว่ามีจีนที่ควบคุมลักษณะนั้นน้อย แต่ถ้าค่าความแปรผันน้อย แสดงว่าจีนที่ควบคุมมีมาก ถ้าจะกล่าวว่า ความเด่นด้อยของคู่จีนในลักษณะปริมาณไม่มีเลยก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะที่ปรากฏมักจะเกิดลักษณะเด่นแท้ (complete dominance) และเด่นไม่สมบูรณ์ (incomplete dominance) ทำให้การกระจายของฟีโนไทป์ในรุ่นลูก F2 ไม่กระจายอย่างปกติแต่จะเบนไปทางปลายใดปลายหนึ่ง และเป็นปัญหาในการทำการผสมพันธุ์พืช ซึ่งมักมีลักษณะทางกรรมพันธุ์ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เป็นประเภทลักษณะปริมาณ เพราะการเกิดความเด่นด้อยนี้เองเป็นผลทำให้ลูกที่เกิดจากการผสมพืชที่ปลายข้างใดข้างหนึ่งของโค้งการกระจายแสดงลักษณะไม่เท่ากับพ่อแม่ เรียกปรากฎการณ์นี้ว่า การถดถอย ( regression )
เมื่อกล่าวถึงลักษณะหนึ่งๆที่ถูกควบคุมด้วยจีนหลายๆคู่แล้ว ก็มีคำถามว่าแล้วจีนคู่หนึ่งๆ จะทำหน้าที่ควบคุมลักษณะหลายๆลักษณะได้หรือไม่ หรือที่เรียกว่ามีไพลโอทรอปิกเอฟเฟกต์ (pleiotropic effect) คำตอบก็คือเป็นไปได้ เช่นในแมลงหวี่ 2 สายพันธุ์ที่มีจีโนไทป์ เหมือนกันทุกประการ ยกเว้นจีนที่ควบคุมสีตา โดยสายพันธุ์หนึ่งมีตาสีแดงและอีกสายพันธุ์หนึ่งมีตาสีขาว เมื่อเปรียบเทียบอัตราส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางต่อความสูงของถุงเก็บน้ำเชื้อตัวผู้ในตัวเมียของทั้งสองสายพันธุ์นี้ ปรากฏว่าความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งแสดงว่าจีนนี้เป็นไพลโอทรอปิกจีน คือควบคุมทั้งสีตา และขนาดของถุงเก็บน้ำเชื้อตัวผู้ในตัวเมีย เป็นต้นลีทัลจีน (lethal gene)
ลีทัลจีน เป็นจีนที่ทำให้เกิดความผิดปกติในการเจริญของเอมบริโอ มีผลทำให้เอมบริโอตายก่อน จะทำการสืบพันธุ์ได้เมื่ออยู่ในสภาพฮอมอไซโกตหรือเมื่ออยู่ในสภาพเฮเทอโรไซโกต อาจจะแสดงออกหรือไม่ก็ได้
ลีทัลจีน อาจแสดงเป็นลักษณะเด่นหรือด้อยก็ได้ แต่พวกที่มีลักษณะเด่นมักจะทำให้สิ่งมีชีวิตที่มีจีนนั้นตายไปทันที จีนนี้เมื่อเกิดขึ้นจึงไม่มีโอกาสถูกถ่ายทอดไปสู่รุ่นลูกต่อไปได้ ดังนั้นพวกลีทัลจีนที่สำคัญคือ พวกที่เป็นลักษณะด้อย เมื่อเกิดขึ้นก็จะเป็นภาระหนักต่อกลุ่มส่วนร่วม เพราะลักษณะลีทัลจีนนี้จะแสดงออกก็ต่อเมื่ออยู่ในภาวะฮอมอไซโกตเท่านั้น ส่วนพวกที่เป็นพาหะ ( carrier) จะมีความสามารถที่จะถ่ายทอดจีนได้ต่อไปเรื่อยๆทั้งที่จีนนี้ก็มีผลทำให้เกิดความผิดปกติเช่นกัน ตัวอย่างของลีทัลจีนที่รู้จักกันดีมีอยู่หลายชนิดพบทั้งพืชและสัตว์รวมทั้งคนด้วย
ในไก่มีจีนลักษณะเด่น (C) ทำให้เกิดเป็นอันตราย เฉพาะเมื่ออยู่ในสภาพฮอมอไซโกต แต่ถ้าอยู่ในสภาพเฮเทอโรไซโกต จะก่อให้เกิดความผิดปกติ ที่เรียกว่า ครีเพอร์ (creeper) คือ ทำให้ไก่นั้นมีขาสั้นและงอมากกว่าปกติ เมื่อเอาไก่ครีเพอร์ผสมกับครีเพอร์ด้วยกันเอง ปรากฏว่าได้อัตราส่วนของครีเพอร์ต่อลักษณะปกติ เป็น 2 : 1 แทนที่จะได้ 3 : 1 ทั้งนี้เพราะจีโนไทป์ที่หายไปคือ CC อาจพิสูจน์ได้ว่าลูกไก่ครีเพอร์ที่ได้เป็นเฮเทอไซโกต เพราะเมื่อนำผสมกลับ (backcross) กับไก่ปกติจะได้ลูกออกมาเป็นอัตราส่วนของครีเพอร์ต่อปกติเป็น 1 : 1 ดังนั้น จีน C มีลักษณะเด่นทำให้ เอมบริโอตายก่อนที่จะฟักออกมาเป็นลูกไก่
ในพืชพวกลิ้นมังกร (Antirhinum majus) การเกิดลักษณะใบเหลืองเป็นผลมาจากจีนเด่นที่เรียกว่า ออเรีย (aurea) ปกติพืชที่พบจะมีใบชนิดสีเขียวหรือสีเขียวอ่อน เมื่อเอาพวกใบสีเขียวผสมกับพวกใบสีเขียว จะได้ต้นกล้าสีเขียวทั้งหมด แต่เมื่อเอาต้นออเรียผสมกันเองจะได้ต้นกล้าสีเขียว : ออเรีย : ขาว = 1 : 2 : 1 ต้นกล้าสีขาวมักจะตายไป เพราะขาดคลอโรฟิลล์ จึงไม่สามารถสังเคราะห์อาหารเพิ่มได้ หลังจากใช้อาหารที่สะสมไว้ในเมล็ดหมดไปแล้ว ดังนั้นเมื่อพืชโตเต็มที่จะได้อัตราส่วนของต้นสีเขียว : ต้นออเรีย เป็น 1 : 2 อัตราส่วนนี้เบี่ยงเบนจากอัตราส่วนที่ควรจะเป็น คือ 1 : 2 : 1 ตามหลักของเมนเดล ทั้งนี้เพราะลิ้นมังกรมี ลีทัลจีน เป็นลักษณะเด่นอยู่ ลีทัลจีนอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยการเปลี่ยนแปลงของจีน แต่เกิดในอัตราที่ต่ำมากในภาวะปกติ และอาจเหนี่ยวนำให้เกิดลีทัลจีนขึ้นมาได้โดยใช้สารเคมี หรือรังสีต่าง ๆ

วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

บทคัดย่อ I.S

เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การจำลองโมเลกุล DNA ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค Jigsaw ร่วมกับ Student Team Achievement Division
การค้นคว้าอิสระในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การจำลองโมเลกุล DNA ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค Jigsaw ร่วมกับ Student Team Achievement Division (STAD) ซึ่งศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน และเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค Jigsaw ร่วมกับ STAD กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา ที่เรียนรายวิชาชีววิทยา (เพิ่มเติม) จำนวน 30 คน เลือกโดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่มที่มีระดับผลการเรียนอ่อน ปานกลาง และเก่ง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้เทคนิคการสอนแบบ Jigsaw ร่วมกับ STAD แบบจำลองโครงสร้าง DNA สื่อแบบแอนิเมชั่น เรื่อง การจำลองโมเลกุล DNA แบบทดสอบ เรื่อง สารพันธุกรรม และแบบสอบถาม ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค Jigsaw ร่วมกับ STAD เรื่อง การจำลองโมเลกุล DNA จากการศึกษาพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การจำลองโมเลกุล DNA ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิคดังกล่าว สูงกว่าก่อนเรียนโดยมีค่าเฉลี่ยของความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 17.00 และ ค่า t = 3.42 ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นักเรียนเห็นด้วยกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค Jigsaw ร่วมกับ STAD เรื่อง การจำลองโมเลกุล DNA มีค่าอยู่ในระดับเห็นด้วยมากร้อยละ 45.78

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552

คู่ครัวคู่สุขภาพ

สวัสดีครับ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโคเรสเตอรอล ผู้สูงอายุหรือผู้ที่กำลังเสี่ยงต่อภาวะโรคหัวใจ พอดีผมไปอ่านเจอเลยคิดว่านำมาฝากอาจเป็นประโยชน์ต่อท่าผู้อ่านบ้าง ลองนำไปใช้ดูนะครับเพราะมีทั้งเรื่องการเลือกกินอาหารและการปรุงอาหาร

Ø คนที่มีระดับโคเรสเตอรอลสูง สัปดาห์หนึ่งควรกินไข่ไก่ไม่เกิน 3 ฟอง แต่ถ้าจะหันมากินตับหมูแทนในปริมาณจำกัด ก็จะได้สารอาหารที่มีประโยชน์ไม่น้อย เพราะตับมีโคเรสเตอรอลน้อยกว่าไข่ไก่
Ø เวลาผัดเนื้อกุ้งอย่าใช้ไฟแรง ให้ผัดเร็วๆและรีบตักขึ้น เนื้อกุ้งจะได้นิ่มน่ากิน
Ø หอมใหญ่เป็นสิ่งที่จะขาดเสียไม่ได้เลยในการปรุงอาหารทะเลและเครื่องในสัตว์
มีคุณสมบัติช่วยลดโคเรสเตอรอลและอุดมด้วยฟอสฟอรัสช่วยเสริมความจำให้ดีขึ้น ถ้าวันไหนกินเนื้อสัตว์มากไปก็ให้กินหอมใหญ่มากหน่อย เพื่อช่วยปรับระดับโคเรสเตอรอล
Ø สาหร่ายทะเลเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจช่วยลดคอเลสเทอรอล ลดความดันโลหิต โดยเฉพาะสาหร่ายไห่ใต้มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็ง
Ø การผัดเนื้อปลา ควรเลือกปลาขนาดกลาง ๆ มาแล่เนื้อผัดจะได้เนื้อปลาที่นุ่มน่ากิน
Ø ผู้ที่มีโคเรสเตอรอลสูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านขั้นตอนการผลิตซับซ้อน เช่น ไส้กรอกเบคอน กุนเชียง หมูยอ แหนม เนื้อบดกระป๋อง เป็นต้น
Ø ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ไม่ควรให้กินอาหารแต่ละมื้อให้อิ่มเกินไปและไม่ควรอาบน้ำทันทีหลังกินอาหารอิ่ม
Ø ปลิงทะเลปราศจากโคเรสเตอรอลช่วยป้องกันความดันโลหิตสูง ช่วยให้ระบบย่อยดีขึ้น เสริมสร้างตับและไตให้แข็งแรง
Ø ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองเป็นอาหารบำรุงเลือด อุดมด้วยฟอสฟอรัสซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบประสาท นอกจากนี้เลซิทินในถั่วเหลืองยังมีบทบาทช่วยลดโคเรสเตอรอลอีกด้วย
Ø วิธีแช่กระเพาะปลาที่ทอดแล้วให้นิ่ม ก็คือ หลังจากทอดแล้วทิ้งให้สะเด็ดน้ำมัน แช่ในน้ำเปล่าจนนิ่ม บีบน้ำออก ใส่น้ำอุ่น ใส่เกลือนิดหน่อยเพื่อล้างคราบน้ำมันออก แล้วล้างน้ำเย็นอีกหลาย ๆ หน
Ø ใช้กะทะเหล็ก ผัด ทอด ต้มอาหารช่วยให้ร้อนเร็วขึ้นและยังเพิ่มธาตุเหล็กให้แก่อาหารจานนั้นอีกด้วย
Ø ไอโอดีนในอาหารทะเล ช่วยป้องกันการสะสมไขมันในเส้นเลือด
Ø เวลาทอดเนื้อปลาต้องรอจนน้ำมันเดือดพล่าน พอใส่ชิ้นปลาลงไปค่อยหรี่ไฟกลาง ทอดพอเป็นสีเหลืองอ่อน และค่อยใช้ไฟแรงเพื่อไล่น้ำมันออกไป เวลากินจะไม่รู้สึกเลี่ยน
Ø วิตามิน B3 (ไนอาซิน ) มีส่วนลดโคเรสเตอรอล มีมากในถั่วต่าง ๆ ข้าวกล้อง เห็ดสดและวีทเยิร์ม เป็นต้น
Ø จากการวิจัยที่สหรัฐอเมริกาครั้งล่าสุดพบว่า การขาดแมกนีเซียมเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ หลายโรค เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ประจำเดือนผิดปกติ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย อาหารที่มีแมกนีเซียม ได้แก่ พืชผัก ถั่วต่าง ๆ และอาหารทะเล
Ø วิตามิน มีบทบาทเป็นอย่างมากในการป้องกันและบำบัดปัญหาโคเรสเตอรอลสูง

ช่วยให้โคเรสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์สลายตัวได้ง่ายขึ้น
Ø ดื่มน้ำหัวผักกาดวันละ 2 ครั้ง ครั้งละหนึ่งถ้วยตะไล จะช่วยลดความดันโลหิตสูง
Ø แตงกวาร้านมีวิตามิน A , C โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัสมากกว่าแตงประเภทอื่น เช่น แตงกวา ฟัก บวบ
Ø ถั่วแระอุดมด้วยเลซิทินและโปรตีนเหมาะสำหรับผู้ที่มีโคเรสเตอรอลสูง
Ø เวลาซื้อเต้าหู้จากตลาดต้องการจะเก็บให้สดใหม่ ให้ล้างด้วยน้ำเย็น ใส่กล่องพลาสติกปิดฝาให้มิดชิด หรือใช้แผ่นพลาสติกใสหุ้มก่อน เก็บเข้าตู้เย็นใต้ชั้นฟรีซ เวลาใช้เต้าหู้ปรุงอาหาร ควรปรุงร่วมกับขิงเพื่อขจัดกลิ่นเต้าหู้ และควรเหยาะเกลือนิดหน่อย เพื่อช่วยรักษาความสดของเต้าหู้เอาไว้
Ø วิตามิน B6 มีปะระโยชน์ช่วยลดโคเรสเตอรอลมีมากในรำข้าว โยเกิร์ต ตับ ข้าวกล้อง เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม ถั่ว
Ø การเคี้ยวอาหารแต่ละคำให้ละเอียดก่อนกลืน นอกจากจะช่วยให้ระบบย่อยดี ร่างกายสามารถดูดซึมอาหารได้มากขึ้นแล้ว จากการวิจัยยังพบว่า หากทำเป็นนิสัยติดต่อกันนานประมาณ 4- 5 เดือน จะช่วยลดความอ้วน ลดโคเรสเตอรอล และลดความดันโลหิตอีกด้วย
Ø ขิง กระเทียม หอมใหญ่ หอมแดง แครอท ถั่วงอก ปลาทะเล เป็นอาหารที่ช่วยลดโคเรสเตอรอลถือเป็นตัวละลายไขมันได้เป็นอย่างดี
Ø กินผักกาดขาวบ่อยๆ ช่วยป้องกันริมฝีปากแตกแห้ง และป้องกันการเป็นซีสต์ในตา
Ø คนที่ความดันโลหิตสูงหรือเป็นโรคหัวใจ ควรเลือกกินอาหารที่มีโพแทสเซียม เพราะมีคุณสมบัติช่วยปกป้องเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ มีอยู่ในผักกวางตุ้ง ผักขม มะระ ผักกาดขาว มะเขือเทศ มันฝรั่ง เผือก เห็ดนางฟ้า เป็นต้น
Ø กินน้ำต้มพุทราจีนแดง(อั้งจ้อ) กับก้านขึ้นฉ่ายช่วยลดโคเลสเตอรอล
Ø แช่เนื้อในน้ำส้มผสมน้ำมัน น้ำตาล เกลือ เครื่องเทศ จะช่วยชูรสและทำให้เนื้อนุ่ม ยิ่งถ้าแช่ค้างคืนในตู้เย็น เนื้อจะยิ่งอร่อยมากขึ้น
Ø การดื่มน้ำส้มคั้นตอนเช้า 1 แก้ว ในมื้อเช้าเป็นการเพิ่มวิตามิน C แก่ร่างกาย ช่วยลดโคเรสเตอรอล ป้องกันหลอดเลือดแข็ง และโรคหัวใจได้
Ø ผู้ที่มีโคเลสเตอรอลสูง ควรหันมาดื่มชาจีนอ่อนๆแทนกาแฟ โดยเฉพาะชาเขียว มีวิตามิน C มาก แต่ชาแดงไม่มีวิตามิน C เลย
Ø เนื้ออกไก่เหมาะสำหรับใช้ผัด ผัดออกมาแล้วเนื้อนุ่มน่ากิน
Ø วิธีทำน้ำสต็อกไก่แบบจีน จะใช้ส่วนหัว กระดูก คอ สับเป็นชิ้นเล็ก ล้างแล้วลวกน้ำเดือด ใส่ลงต้มพร้อมน้ำค่อนหม้อ ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวจนมีน้ำมันออก ช้อนฟองออก ใส่ต้นหอม ขิง เหล้าเล็กน้อย เคี่ยวอีกหนึ่งชั่วโมง จึงกรองเอาแต่น้ำสต็อกใสๆ
Ø อาหารจีนมักใช้น้ำมันงาเป็นส่วนประกอบเพราะมีกลิ่นหอมชวนกิน น้ำมันงาช่วยลดโคเรสเตอรอล เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง หลอดเลือดแข็งตัว ช่วยบำรุงสมอง บำรุงผม