วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เพื่อสุขภาพ

สวัสดีครับคุณผู้อ่าน
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่กรุณาเข้าเยี่ยมชม blog นี้ จริงๆแล้วอยากเขียนบทความเองบ้างแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะเขียนอย่างไร เลยหาบทความหรือข้อความที่น่าสนใจมาฝากทุกท่านก่อน คราวนี้มีคนส่ง mail ให้ผม ผมเห็นว่าน่าสนใจและมีประโยชน์เลยนำมาฝากลองอ่านดูนะครับ
หนังสือชื่อ ' ยามหัศจรรย์สำหรับคุณ '
1. ปวดหัว กินปลามากๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด น้ำมันจากปลามีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง

2. แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว

3. โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด

4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจำ สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี

5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง

6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า (ปลาโอ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง ) น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง

7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก และขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป

8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูกแคนเบอรี (ไม้เมืองหนาว) กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้

9.. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่านโดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย ให้กินข้าวโพดช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้

10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด ซึ่งมีสารแมงกานีสอยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้

11. ความจำเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครงหรือหอยอื่น ๆ ซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี

12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย

13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง
โดยเฉพาะรำข้าวกะหล่ำปลี ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม ข้อสำคัญอย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต ช่วยให้อาการปั่นป่วนในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลายไขมันเลว ' คลอเลสเตอรอล ' ได้ ทำให้ระดับความดันเลือดลดลง ซึ่งมีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้ พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้นนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกายช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆได้ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้นนับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทยเป็นภูมิปัญ ญาชาวบ้านในท้องถิ่นอันควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลาน ไทยขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนต่างชาติที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของ เราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้า และคิดค้นตามแนวทางที่บรรพบุรุษของเราท่านได้วางพื้นฐานไว้ให้เพื่อนำมาใช้ ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป.

14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลีจะช่วยป้องกันได้ดี

15. มะเร็งปอด กินส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเอ อยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน

16 แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลี ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กหายขาดได้

17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก

18. เส้นเลือดตีบ กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี 'โมโรอันแซตเทอเรต'

19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่ายพืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี

20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโรลี่ และถั่วลิสง คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร

***ตำรานี้ห้ามซื้อขาย หรือคิดเป็นเงินค่ารักษา และขออย่าได้เก็บไว้เป็นส่วนตัวโดยเด็ดขาด หากท่านผู้อื่นรับทราบด้วยใจศรัทธาและกุศลจิตของท่าน ท่านและครอบครัวจะประสบแต่ความสุข

วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เผยแพร่ผลงาน

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การใช้ชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้วิชาชีววิทยา 3 รหัสวิชา ว 43233 เรื่อง การถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา
ชื่อผู้รายงาน : นายนิวัฒน์ ประสานพันธ์
รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้วิชาชีววิทยา 3 รหัสวิชา ว 43233 เรื่อง การถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรม เพื่อพัฒนาการเรียนรู้วิชาชีววิทยา 3 รหัสวิชา ว 43233 เรื่อง การถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังใช้ชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้วิชาชีววิทยา 3 รหัสวิชา ว 43233 เรื่อง การถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา กับเกณฑ์ร้อยละ 80 และเพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยาที่มีต่อชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้วิชาชีววิทยา 3 รหัสวิชา ว 43233 เรื่อง การถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา
กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา ตำบล เสียว อำเภอ เบญจลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 จำนวน 40 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ ชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้วิชาชีววิทยา 3 รหัสวิชา ว 43233 เรื่อง การถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา จำนวน 1 ชุด แบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรม และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t – test (dependent samples)ซึ่งพบว่า
1. ชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้วิชาชีววิทยา 3 รหัสวิชา ว 43233 เรื่อง การถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา มีประสิทธิภาพเท่ากับ 89.77/87.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้คือ 80/80

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้ชุกิจกรรมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้วิชาชีววิทยา 3 รหัสวิชา ว 43233 เรื่อง การถ่ายทอดทางพันธุกรรม โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจลักษ์พิทยา สูงกว่าก่อนเรียนโดยมีค่าเฉลี่ยหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 83.38 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ค่าเฉลี่ยของความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 63.50 และ ค่า t = 3.592 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการชุดกิจกรรม อยู่ในระดับความพึงพอใจอย่างยิ่ง ค่าเฉลี่ย 4.77 S.D. = 0.42